Monday, March 21, 2016

หลอกแชททางเฟซบุ๊กลวงสาวไทยแต่งงาน


บุกจับหนุ่มไลบีเรีย พร้อมแฟนสาวคาห้องพัก หลอกแชททางเฟซบุ๊กลวงสาวไทยแต่งงาน แต่ให้โอนเงินไปก่อน 4 ครั้ง ร่วม 3 แสน ทั้งยังแสร้งเอาเงินดำมาหลอก เหยื่อไหวตัวทันแจ้งจับ
(เดลินิวส์ออนไลน์ วันจันทร์ที่ 21 มีนาคม 2559 เวลา 15:46 น.)
เมื่อวันที่ 21 มี.ค. ที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (สตม.) พ.ต.อ.นิธิธร จินตกานนท์ รอง ผบก.ทท. พร้อมเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน บก.ทท. เข้าสอบปากคำนายมอริส จอห์นซัน อายุ 48 ปี สัญชาติไลบีเรีย ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดระยอง เลขที่ จ.138/2559 ลงวันที่ 19 มี.ค. 59 ในความผิดข้อหา "ร่วมกันฉ้อโกงและนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือ ข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะก่อให้เกิดความเสียหายต่อผู้อื่นหรือประชาชน" โดยจับกุมได้ที่ห้องพักเลขที่ 393/658 อาคารบดินทร์สวีทโฮม ตึกดีซอยพระยาประเสริฐ ถนนลาดพร้าว 94 เขต-เขตวังทองหลาง กทม.
พ.ต.อ.นิธิธร เปิดเผยว่า การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 4 มี.ค. ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่งานสืบสวน กก.1 บก.ทท.ได้รับแจ้งจากหญิงผู้เสียหายชาวไทยว่า ได้แชทพูดคุยทางเฟซบุ๊กกับชายชาวต่างชาติที่อ้างตัวว่าชื่อ ฟิลลิป ฮาร์ท เป็นทหารอเมริกันมีเงินจำนวนมากที่ต้องการจะนำเข้ามาในประเทศไทยเพื่อขอแต่งงานกับตนแต่ต้องผ่านขั้นตอนของศุลกากรที่สนามบินก่อน โดยมีค่าใช้จ่ายจำนวนหนึ่งผู้เสียหายหลงเชื่อจึงโอนไปให้ทั้งหมด 4 ครั้ง ต่างวันและเวลากัน รวมเป็นเงิน 283,000 บาท เพื่อเป็นค่าใช้จ่าย หลังจากนั้นนายมอริสผู้ต้องหาได้ติดต่อมาหาผู้เสียหายโดยอ้างตัวว่า เป็นลูกน้องของนายฟิลลิป ฮาร์ท ได้ทำทีนำเงินดำพร้อมน้ำยาล้างมาแสดงการล้างเงินให้ดูพร้อมแจ้งผู้เสียหายว่าจะต้องซื้อน้ำยาล้างเพิ่มเติมอีกเป็นเงิน 3 แสนบาท ทำให้ผู้เสียหายเริ่มสงสัยจึงแจ้งเจ้าหน้าที่ จากการสืบสวนทราบว่า นายมอริส เป็นผู้ที่ปลอมตัวเป็นนายฟิลลิป ฮาร์ท ในเฟซบุ๊กหลอกคุยกับผู้เสียหาย และพักอาศัยอยู่ที่อาคารดังกล่าวจึงนำหมายค้นเข้าจับกุมได้ที่ห้องพักพร้อมแฟนสาวสัญชาติเดียวกัน ตรวจสอบนายมอริสไม่มีพาสปอร์ต ส่วนภรรยานั้นวีซ่าหมดอายุ และยังพบโทรศัพท์มือถือของนายมอริสที่ใช้ติดต่อกับผู้เสียหายจึงยึดไว้เป็นของกลาง ซึ่งเจ้าหน้าที่จะได้ควบคุมตัวนายมอริสส่งพนักงานสอบสวนสภ.แกลง จ.ระยอง ดำเนินคดี ส่วนภรรยานั้นได้แจ้งข้อหา "เป็นบุคคลต่างด้าวเข้าและอยู่ในราชอาณาจักรไทยโดยการอนุญาตสิ้นสุด" ก่อนผลักดันออกนอกประเทศต่อไป

Friday, March 4, 2016

เตือนสาวไทยให้รู้ทันสแกมเมอร์

ก่อนหน้านี้หลายสัปดาห์ ทีมข่าวเดลินิวส์ ได้นำเสนอเรื่องราวเตือนภัยบรรดาหญิงสาวชาวไทยที่นิยมเล่นอินเทอร์เน็ต ไม่ว่าจะเป็นเฟซบุ๊ก เว็บไซต์หาคู่แล้วไปพลาดท่าหลงกลตกเป็นเหยื่อพวกสแกมเมลชาวต่างชาติ ที่วางแผนค่อนข้างแยบยล ส่วนใหญ่จะใช้รูปภาพฝรั่งที่เป็นหนุ่มหล่อรูปร่างหน้าตาดี มาสมัครเป็นเพื่อนพูดคุยด้วยทางออนไลน์ ก่อนจะออกอุบายหลอกล่อต่าง ๆ นานา จนเหยื่อหลงเชื่อตายใจโอนเงินให้ กว่าจะรู้ว่าตกหลุมพรางแก๊งแสบก็ไปกดเงินออกจากบัญชีที่โอนไว้เรียบร้อยแล้ว

นับวันแก๊งต่างชาติเริ่มเหิมเกริมขึ้นเรื่อย ๆ โดยมีชาวไทยบางส่วนร่วมขบวนการด้วย!!

ในส่วนของเทคนิคของแก๊งแสบมีหลากหลายรูปแบบ แต่ที่มีการรวบรวมข้อมูลที่คนร้ายนิยมใช้หว่านล้อมหลอกลวงเหยื่อซ้ำ ๆ นั้น อาทิ คุณถูกรางวัล ติดต่อเพื่อรับเงินทันที, คุณได้รับมรดก ติดต่อมาเพื่อรับรางวัล, ส่งสิ่งของมีค่ามาให้จากต่างประเทศ แต่ติดปัญหาเรื่องศุลกากร ต้องชำระเงินก่อนถึงรับของได้ เป็นต้น

อย่างคดีล่าสุดช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา พล.ต.ต.สุรพล หอมชื่นชม ผบก.ปอศ. พร้อมด้วย พ.ต.อ.ชัยณรงค์ เจริญไชยเนาว์ พ.ต.อ.กิตติ สะเภาทอง พ.ต.อ.ภูธร ปริศนานันทกุล รอง ผบก.ปอศ. และ พ.ต.อ.สถิตย์ พรมอุทัย ผกก.5 ปอศ. โชว์ผลงานนำกำลังตำรวจหลังวางแผนติดตามจับกุม นายไฮเซ่น อีวุนดู สัญชาติไนจีเรีย อายุ 31 ปี อดีตนักฟุตบอล เคยเข้ามาค้าแข้งในลีกดิวิชั่น 2 ในเมืองไทยก่อนหน้านี้ เป็น 1 ในผู้ต้องหาแก๊งหลอกลวง “สแกมเมล” (หลอกลวงเหยื่อ   ทางอินเทอร์เน็ต) จับกุมได้พร้อมของกลางบัตรเอทีเอ็ม จำนวน 1 ใบ โทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง จับกุมได้ที่บริเวณซอยอ่อนนุช 68 เขตสวนหลวง

สำหรับพฤติกรรมของคนร้ายนั้น พล.ต.ต.สุรพล เปิดเผยว่า ผู้ต้องหาได้หลอกลวงหญิงสาวชาวไทย (ขอสงวนนาม) ในโซเชียลเน็ตเวิร์กซึ่งมีเพื่อนชาวต่างชาติเข้ามา สนทนาทางอีเมลต่าง ๆ โดยใช้รูปคนอื่นระบุว่าชื่อ ‘‘แซนดอส’’ สัญชาติอังกฤษ อายุ 41 ปี อาศัยอยู่เมืองเบอร์มิงแฮม ประเทศอังกฤษ จากนั้นพูดคุยติดต่อกับผู้เสียหายชาวไทยมาประมาณ 4 เดือน กระทั่งเหยื่อตายใจยอมให้เบอร์โทรศัพท์ จากนั้นคนร้ายอ้างว่าจะเดิน  ทางเข้ามาประเทศไทยปลายปีนี้ โดยส่งพัสดุเป็นเสื้อผ้าของใช้ตัวเองมาทางเครื่องบินโดยสารแล้ว
ต่อมาวันที่ 29 ต.ค. ที่ผ่านมา ได้มีหญิงชาวไทยอ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่กระจายสินค้าที่ท่าอากาศยานภูเก็ต ระบุชื่อ “วรรณพร” ไม่ทราบนามสกุล โทรศัพท์แจ้งว่าพัสดุจากอังกฤษมาถึงแล้วให้รีบมาติดต่อรับของออก คนร้ายที่ร่วมขบวนการเป็นผู้หญิงอ้างว่า ตรวจสอบพัสดุภายในกล่องดูแล้วเป็นของมีค่า เช่น มือถือไอโฟน ไอแพดและเงินสดจำนวนหนึ่ง แต่ผู้เสียหายจะต้องชำระค่าขนส่งสินค้าและภาษี โดยให้รีบโอนเงินเข้าบัญชีธนาคารกสิกรไทย ย่านอ่อนนุช จำนวนเงิน 117,617.50 บาท หลังจากเหยื่อตกหลุมพรางยอมโอนไปให้ หลังจากนั้นพยายามติดต่อไปหาเพื่อนต่างชาติเพื่อแจ้งให้ทราบว่าโอนเงินไปแล้วและยังไม่ได้รับสิ่งของ แต่สุดท้ายก็ไม่สามารถติดต่อได้จึงแน่ใจว่าถูกหลอกลวง หลังจากนั้นได้ตัดสินใจประสานงานกับทางธนาคารเพื่อแจ้งเรื่อง  ให้ทราบ คดีนี้ทางธนาคารจึงได้ประสานงานกับพล.ต.ต.สุรพล ผบก.ปอศ. ให้จากนั้นจึงมีการตรวจสอบข้อมูลก่อนจะวางแผนติดตามจับกลุ่มคนร้าย จากการตรวจสอบภาพวงจรปิด พบว่าเมื่อวันที่ 31 ต.ค. เวลาประมาณ 23.00 น. มีชายต่างชาติผิวดำเป็นผู้นำบัตรเอทีเอ็มไปเบิกถอนเงินสด จากภายในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง พล.ต.ต.สุรพล จึงประชุมทีมงานตำรวจ ปอศ. เพื่อวางแผนดักจับกุม ทราบว่าคนร้ายพักอยู่บริเวณภายในซอยอ่อนนุช 68 นำกำลังจับกุมตัวได้พร้อมของกลาง

นายไฮเซ่น ให้การรับสารภาพทำนองว่า ทำหน้าที่เป็นคนกดเงินเท่านั้น โดยใช้บัตรเอทีเอ็มของเพื่อนหญิงสาวชาวไทยที่ขอยืมบัตรมาเพื่อใช้รับโอนเงินจากผู้เสียหายที่ถูกหลอกลวง เพิ่งหลอกลวงเหยื่อมา 3 รายได้เงินรายละประมาณ 1 แสนบาท มีผู้ร่วมขบวนการอีกหลายคน ซึ่งเป็นคนเล่นอินเทอร์เน็ตพูดคุยกับผู้เสียหาย แต่อยู่ประเทศมาเลเซีย เบื้องต้นตำรวจแจ้งข้อหาว่า ใช้และมีไว้เพื่อนำออกใช้ซึ่งบัตรอิเล็กทรอนิกส์ผู้อื่น ส่งพนักงานสอบสวน กก.5 บก.ปอศ. ดำเนินคดี และจะเร่งขยายผลไปถึงผู้ร่วมขบวนการที่เกี่ยวข้องทั้งหมด
พล.ต.ต.สุรพล ให้สัมภาษณ์ ทีมข่าวอาชญากรรมว่า อยากจะฝากเตือนให้ทราบว่าขณะนี้มีกลุ่มชาวต่างชาติผิวดำ วางแผนทำเป็นขบวนการ เริ่มแรกจะแฝงตัวเข้ามาเป็นนักท่องเที่ยวในเมืองไทย จะมีพฤติกรรมในการหลอกลวงเหยื่อให้ตายใจโดยการทำตัวเป็นคนมีเงินปรนเปรอเหยื่อให้หลงเชื่อก่อน บางรายใช้ระยะเวลาหลายเดือนสนิทสนมจนอยู่กินกันแล้วหลอกให้ทำบัตรเอทีเอ็ม หลังจากนั้นจะเริ่มแผนสอง วิธีการหลอกลวงเหยื่อทางอินเทอร์เน็ต ใช้รูปปลอมเป็นชาวผิวขาวหน้าตาดีมาหลอกสารพัดรูปแบบ จนทราบที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ของเหยื่อจะเริ่มติดต่ออ้างว่าส่งของมีค่ามาให้ บางรายเสียทั้งเงินและอาจเสียตัวด้วย อย่างไรก็ตาม ตำรวจ ปอศ. จะประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยว ข้องร่วมกันติดตามจับกุมคนร้ายที่เหลือต่อไป.

รู้ทันกลลวงแก๊งแสบ

หลังจากมีกลุ่มบรรดามิจฉาชีพชาวต่างประเทศออกอาละวาดในโลกออนไลน์ โดยมีคนไทยบางส่วนร่วมขบวน การด้วย ทำให้มีบรรดาหญิงสาวชาวไทยที่เคยตกเป็นเหยื่อแก๊งสแกมเมลในหลากหลายรูปแบบ ตัดสินใจรวมกลุ่มกันเปิดเฟซบุ๊ก ในชื่อ “สาวไทยรู้ทันกลลวง” (Thai Anti Scam) เพื่อเตือนหญิงสาวไม่ให้ตกเป็นเหยื่อคนร้ายต่างชาติ ที่นิยมหาเหยื่อตามเว็บหาคู่ต่าง ๆ รวมไปถึงเว็บบล็อก อย่างเช่น Hi5 หรือ tagged.com โดยจะโชว์รูปโปรไฟล์ที่เป็นชาวต่างชาติหน้าตาดี แล้วมาหลอกว่าเป็นตัวเอง เมื่อผู้หญิงหลงเชื่อ มันก็จะเริ่มขบวนการต้มตุ๋นสารพัดวิธี จนต้องหลงเชื่อโอนเงินไปให้

ที่มา